ในแต่ละวัน คนวัยทำงานใช้เวลามากถึง 1 ใน 3 ไปกับการทำงาน นอกเหนือจากรายได้ การทำงานถือได้ว่าเป็นอัตลักษณ์ตัวตนของแต่ละคน ในชีวิตการทำงาน ย่อมมีโอกาสทำให้คนทำงานเจอกับปัญหาต่าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาระงานที่มาก การทำงานหนัก การไม่มีเวลาดูแลสุขภาพตนเอง ความสัมพันธ์ในที่ทำงาน หรือสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจากหลายปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ ทั้งทางร่างกาย และ ทางจิตใจ ของพนักงานในระดับตัวบุคคลและส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานที่ลดลง
เราจะสังเกตได้ว่า เมื่อองค์กร หน่วยงาน หรือที่ทำงานใดก็ตาม เริ่มหันมาใส่ใจดูแลพนักงานของตน นอกจากผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพพนักงานแล้ว ก็เหมือนเป็นการสร้างความผูกพันกับองค์กร หรือ Employee Engagement ทำให้พนักงานรู้สึกได้ถึงการได้รับความสำคัญและใส่ใจต่อคนทำงานทำให้มีแรงและพลังกายและใจที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ออกมาดีที่สุด และที่สำคัญคือ พนักงานก็จะมีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง พร้อมทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น การสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีในที่ทำงาน จึงเป็นสิ่งที่ทุกบริษัทไม่ควรมองข้าม เพราะจะเป็นตัวช่วยให้การทำงานเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สุขภาวะที่ดีในที่ทำงาน คือ ภาวะที่พนักงานที่ทำงานภายในองค์กร หน่วยงาน หรือที่ทำงาน มีความสมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ สามารถจัดการกับความเครียดหรือรับมือกับแรงกดดันต่าง ๆ การดูแลสุขภาพของตนเอง ได้อย่างเหมาะสม ในขณะเดียวกันก็สามารถจัดการกับสมดุล ชีวิตส่วนตัว กับ ชีวิตการทำงาน ได้อย่างลงตัว ทำให้งานออกมาดี และสุขภาพดีควบคู่กันไป หรือที่หลายคนเคยได้ยินคำว่า Work-life Balance
การสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีในที่ทำงาน จะเกิดขึ้นได้ ด้วยทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกัน ดังนั้น ทั้งตัวองค์กร หน่วยงาน ที่ทำงาน หรือแม้แต่ตัวพนักงานเอง ควรมีต้องมีเป้าหมายเดียวกันที่จะสร้างสุขภาวะที่ดีในที่ทำงาน และช่วยกันลงมือทำ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ องค์กรที่มีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน ต่อไป